วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2559
หญ้าลิ้นเป็ด (อะจิเช่า)
ชื่อ “ อะจิเช่า” คนไทยจะไม่รู้จักนอกจากคนจีนโพ้นทะเล แต่พอบอกว่าหญ้า “ ลิ้นเป็ด” ก็พอมองเห็นลางๆเพราะรูปร่างหน้าตาสมุนไพรตัวนี้มีลักษณะเหมือนลิ้นเป็ด ฮ่าๆๆ
สมุนไพร “อะจิเช่า” เดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ โดยแพทย์ลูกหลานชาวจีนที่มาเยี่ยมญาติที่เมืองไทย แล้วปลูกอนุรักษ์ไว้ใช้ในครัวเรือน เพื่อใช้กินรักษาสุขภาพโดยเฉพาะฝีเนื้อร้ายในร่างกายให้ยุบและฝ่อไป ที่ประเทศจีนคนจีนส่วนใหญ่จะปลูกในบ้านเพื่อเป็นยาสมุนไพรเท่านั้น มีรสชาติขมทั้งต้น ถือเป็นยาเย็น
หมอพื้นบ้านบางคนเล่าว่าพระธุดงค์นำมาเผยแพร่ทางฝั่งประเทศลาว เวียดนาม ก็พอจะมองเห็นการเดินทางมาของ “อะจิเช่า” อีกเส้นทางหนึ่ง เนื่องจากวัดบางแห่งมีปลูกแสดงว่าเจ้าอาวาสต้องรู้คุณค่าแล้วนำมาปลูก ผมเคยเห็นที่วัดสามแยกบ้านห้วยยางทอง ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์
จำได้แม่นครับเมื่อปี ๒๕๕๕ ผมขับรถฝ่าสายฝนลุยโคลนขึ้นไปยอดเขา สูงชัน ถนนที่ขึ้นไปเรียกว่าเละ- ลื่นส่ายไปมา โคลนเกือบครึ่งล้อ แต่ด้วยความมุ่งมั่นจะไปดูต้นเบาบับBAOBAB ต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกถิ่นกำเนิดอยู่แถบทวีปแอฟริกา เพิ่งมาปลูกที่เมืองไทยอยู่ที่วัดสามแยก อ.น้ำหนาว เสียงเล่าขานบอกว่าต้นใหญ่ขนาดรถสิบล้อสองคันวิ่งสวนกันในโพรงต้นไม้ชนิดนี้ ต้นสามารถจุน้ำได้ ๑๒๐,๐๐๐ ลิตร (ดูภาพได้ที่เรื่องเล่าสุขภาพ ตอน..ตามหาต้น BAOBAB ที่น้ำหนาว
ขนาดต้นเบาบับที่ปลูกวัดนี้ ขนาดลำต้นเท่าขาคน ประมาณการปลูกว่าอายุประมาณ ๑ ปีน่าเสียดายวันที่ผมไปไม่มีโอกาสพบเจ้าอาวาส เนื่องจากช่วงนั้นเจ้าอาวาสมีข่าวทางลบ ด้านไม่สำรวมถีบเก้าอี้ และมีเพศสวาทกับลูกศิษย์ชาย จึงไม่ต้อนรับนักข่าว ถามเจ้าหน้าที่ตอบได้อย่างเดียวไม่รู้ไม่ทราบวัดนี้มีวงจรปิดเต็มไปหมด แอบดูมีใครมาบ้าง รวมผมด้วยฮ่าๆๆ
เรามาดูสรรพคุณของ “อะจิเช่าหรือหญ้าลิ้นเป็ด” บางคนก็เรียก “คออูฐ” และ “อีงูลาย”คงเรียกตามลักษณะใบ สรรพคุณของสมุนไพรชนิดนี้ใช้ดับร้อน แก้ความร้อนในเลือดใช้ภายนอกดับพิษแก้บวม มีฤทธิ์เข้าถึงม้ามและปอดใช้แก้เจ็บคอเพราะปอดร้อน ใช้ภายนอกแก้พิษแก้บวม ใช้ทาไฟลามทุ่ง
หมอพื้นบ้านมักเอาหญ้าลิ้นเป็ดทั้ง ราก ต้น ใบ กิ่ง ดอก มาต้มใช้รักษาฝี-แผลภายในหรือเนื้อร้าย มะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปอด ตัวยาจะมีรสชาติขม ใช้เป็นยาเย็นดีมาก คุณอุไรวรรณ อธิคมกมลาศัย เขียนไว้ในหนังสือ “เมื่อผู้พิพากษาเป็นมะเร็ง” ว่าสามีคุณประมุข อธิคมกมลาศัย ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค ๗ ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้และมะเร็งปอด ก็ได้รับคำแนะนำให้กินสมุนไพรหญ้าลิ้นเป็ดเป็นประจำเพื่อเพิ่มเกร็ดเลือด เพราะคนเป็นมะเร็งส่วนใหญ่เกร็ดเลือดจะต่ำ
การต้มสมุนไพรลิ้นเป็ดดื่ม ใช้ใบประมาณ ๒๐ ใบน้ำ ๒ ลิตร ต้มให้เดือดดื่มครั้งละครึ่งแก้ว ก่อนอาหาร ๓ เวลา หรือจะนำใบไปคั้นผสมน้ำดื่มก็ได้ ว่ากันว่า ใช้กวาดคอ แก้ทอลซิลอักเสบได้ชงัด แก้ไอเป็นเลือด บ้างก็บอกว่าคนกินเผ็ดไม่ได้ ให้เอาใบมาเคี้ยวอมไว้สักครู่ แล้วคายทิ้งลิ้นจะทนต่อสารเผ็ดในพริกได้
ใครที่ปากลิ้นเปื่อยเหงือกบวม นำใบลิ้นเป็ด ๓-๔ใบมาเคี้ยวอม ส่วนผู้หญิงที่นมคัดเจ็บปวดนม นอกจากคั้นน้ำกินแล้วก็สามารถนำกากมาพอกทาก็สามารถบรรเทาอาการปวดได้
หญ้าลิ้นเป็ด เป็นพืชล้มลุก ขึ้นจากรากใต้ดิน หรือไหล ใบลักษณะคล้ายลิ้นเป็ด ดอกเหมือนกับดอกเบญจมาศ จะออกดอกช่วงฤดูหนาว เป็นสีเหลือง เมล็ดจำนวนมาก รูปแบน ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด หรือไหล
สมัยปู่เย็นผู้พิทักษ์สายน้ำเมืองเพชร จังหวัดเพชรบุรียังมีชีวิตอยู่ ถ้าใครสักเกตบนหัวเรือของปู่เย็น จะมีกระถางปลูกสมุนไพรหญ้าลิ้นเป็ดไว้เหมือนกัน ปู่เย็นคงรู้สรรพคุณและคุณค่าทางยาของหญ้าลิ้นเป็ดจึงปลูกอนุรักษ์ไว้ใกล้ตัว ยามฉุกเฉินก็สามารถนำมาใช้ได้ ทั้งแก้คัน แก้ไอ โรคเกี่ยวกับช่องปาก พิเศษสุดคือใช้รักษามะเร็งและเพิ่มเกร็ดเลือด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น