วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2559


เห็ดนางฟ้า
 
ชื่อสามัญ :Shiitake Mushroom
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lentinus edodes (Berk.) Sing.
ชื่ออื่น : ญี่ปุ่นเรียกว่า ไชอิตาเกะ เกาหลีเรียกว่า โบโกะ จีนเรียกว่าเฮียโกะ
ภูฏาน เรียก ชิชิ-ชามุ อังกฟษเรียกว่า Black Mushroom หรือ เห็ดดำ
ถิ่นกำเนิด: ประเทศจีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และไต้หวัน

ลักษณะทางพฤกษศาตร์: 
        หมวกเห็ดหอมมีรูปทรงกลม ผิวมีขนรวมกันเป็น เกล็ดหยาบๆ สีขาวกระจายอยู่ทั่วไป ผิวหมวกด้านบนสีน้ำตาล น้ำตาลปนแดงหรือ น้ำตาลเข้ม ครีบดอกเป็นแผ่นบางสีขาว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเข้ม ก้านดอกมีสีขาวหรือน้ำตาลอ่อน หากปล่อยไว้ให้ถูกอากาศจะเปลี่ยนเป็นสีเข้ม โคนก้านดอกสีน้ำตาลอ่อน เนื้อในสีขาว เห็ดหอมเนื้อนุ่ม มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงได้ชื่อว่า เห็ดหอม
 
ฤดูกาล : ตลอดปีแต่จะให้ผลผลิตดีในช่วบงฤดูหนาว
 
แหล่งปลูก : ภาคเหนือแถบจังหวัดเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน ภาคอีสานแถบจังหวัดเลยและสกลนคร


สรรพคุณด้านยา
         นางฟ้าเห็ดนางฟ้า และเห็ดในกลุ่มเห็ดนางฟ้า(เห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดนางรม เห็ดภูฐาน) จัดได้ว่าเป็นเห็ดที่มีประโยชน์ในด้านโภชนาการและมีสรรพคุณทางยา เนื่องจากประกอบด้วย โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ ที่จำเป็นต่อร่างกายจำนวนมาก เวลารับประทานรสชาติจะคล้ายเนื้อสัตว์ แต่เห็ดจะไม่เหนียวเหมือนเนื้อสัตว์ทำให้ระบบย่อยอาหารของคนเราสามารถที่จะทำงานและย่อยสลายได้ดี
เห็ดยังมีส่วนที่ให้พลังงาน คาร์โบไฮเดรตและเส้นใย ปริมาณไขมันต่ำ จึงไม่ทำให้อ้วน เห็ดจึงจัดได้ว่าเป็นอาหารประเภทผักที่ปราศจากไขมัน มีปริมาณน้ำตาลและเกลือค่อนข้างต่ำ และยังเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี เมื่อเทียบกับผักอีกหลายชนิดอีกด้วย โดยประโยชน์และสรรพคุณของเห็ดนางฟ้าสามารถสรุปได้ดังนี้
1. เห็ดนางฟ้าจัดเป็นแหล่งเกลือแร่ที่สำคัญ โดยมีเกลือแร่ที่สำคัญ เช่น ซิลิเนียม โดยจะทำหน้าที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง และโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
2. เห็ดนางฟ้ามีโปแตสเซียม ช่วยในการทำหน้าที่ควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจความสมดุลของน้ำในร่างกาย การทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาทส่วนต่าง ๆ ช่วยการไหลเวียนเลือดดี ลดการเกิดโรคความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ และอัมพาต อีกด้วย
3. เห็ดนางฟ้าอุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ โดยเฉพาะวิตามินบีรวม (ไรโบฟลาวิน) และไนอาซิน ซึ่งจะช่วยควบคุมการทำงานของระบบย่อยอาหาร ป้องกันโรคกระเพาะได้
จะเห็นได้ว่าประโยชน์จากเห็ดนางฟ้านั้นมีมากมายนอกจากนำไปปรุงอาหารรสชาติอร่อยแล้วยังมีสรรพคุณทางยาของเห็ดอีกมากมาย เช่น ช่วยควบคุมการทำงานของอวัยวะสำคัญต่างๆ เช่น สมอง หัวใจ ปอด ตับ และระบบไหลเวียนของโลหิต อีกด้วย
ชาวจีนจะจัดเห็ดเป็นประเภทของยาเย็น เพราะมีสรรพคุณช่วยลดไข้ เพิ่มพลังชีวิต ดับร้อนใน แก้ช้ำใน บำรุงร่างกาย ลดระดับน้ำตาล และคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด ลดความดัน ขับปัสสาวะ ช่วยให้หายหงุดหงิด บำรุงเซลล์ประสาท รักษาอาการ
อัลไซเมอร์ และที่สำคัญ คือ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง นอกจากนี้ยังมีเห็ดอีกหลายชนิดที่มีสรรพคุณทางด้านยา เช่น เห็ดหนูหนู เห็ดหลินจือ เห็ดฟาง เห็ดหอม เป็นต้น

“เห็ดนางฟ้าชุบแป้งทอด” เมนูกรอบๆ ได้ประโยชน์
ส่วนผสม
เห็ดนางฟ้า 300 กรัม
แป้งทอดกรอบ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า (น้ำเย็น) ½ ถ้วย
เกลือป่น ¼ ช้อนชา
น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
วิธีทำ
เริ่มจากดูว่าเห็ดนางฟ้าสกปรกมากหรือไม่ ถ้าไม่สกปรกมากก็สามารถนำมาปรุงอาหารได้เลย แต่ถ้าจะล้างทำความสะอาด ก็ต้องผึ่งให้แห้งสนิท (เนื่องจากหากไม่แห้งสนิทเวลาทอดแล้วจะอมน้ำมัน) จากนั้นให้ผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเย็นจัด เพื่อให้ทอดแล้วกรอบอยู่นาน (ถ้าหากชอบแป้งหนาๆ ให้ลดปริมาณน้ำที่ผสมลงเล็กน้อย) ใส่เกลือป่นลงไป ผสมให้เข้ากันดี
นำกระทะตั้งเตา ใส่น้ำมันพืชลงไปในปริมาณเยอะพอสมควร ตั้งไฟจนน้ำมันร้อนจัด นำเห็ดนางฟ้าที่เตรียมไว้ลงจุ่มในแป้งทอดกรอบที่ผสมแล้ว จากนั้นนำลงทอดในน้ำมัน ทอดจนเหลืองกรอบทั้งสองด้านแล้วตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน เสร็จแล้วจัดใส่จาน สามารถกินเปล่าๆ หรือจะกินคู่กับซอสพริก-ซอสมะเขือเทศ เพื่อเพิ่มรสชาติก็ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น